ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

React.useEffect ***บันทึกไว้กันลืม

const Getdata= () => {  // state loaded เอาไว้ render ในกรณีที่ยังไม่ได้ข้อมูลจาก service  [loaded, setLoaded] = React.useState(false)   // state content เอาไว้ใส่ข้อมูล   [content, setContent] = React.useState('') useEffect(() => {  // ดึงข้อมูลเสร็จแล้วค่อยทำ setContent   getContent.then(res => {  setLoaded(true) setContent(res)   })   // เมื่อทำ unmount ก็ clear state กลับเป็นอย่างเดิม   return () => {   setLoaded(false)   setContent('') } },   // state ที่เราสนใจจะ subscribe ใน useEffect ตัวนี้   [loaded, content])  } ***  - useEffect ใน React functional component แทน componentDidMount - useEffect คล้ายๆ componentDidMount  แต่ ยืดหยุ่นกว่า -  componentDidMount ถูก trigger ทุกครั้งที่ component ถูก mount กับ DOM หรือทุกครั้งที่ state เปลี่ยนแปลง -  useEffect ก็จะ trigger ทุกครั้งที่ state หรือ props ของ function เปลี่ยนแปลง แต่เราสามารถกำหนดได้ด้วย ว่าจะสนใจ state หรือ props ไหน -   useEffect เองก็สามารถทำ componentWillUnMount ได้ด้วย โดย return func

วิธีการติดตั้ง Docker บน Debian 9 (Stretch)

Step 1  ก่อนติดตั้ง ถ้ามีการติดตั้ง  Docker มาก่อน ต้องลบก่อนนะครับด้วยคำสั่ง  apt-get purge docker lxc-docker docker-engine docker.io ตอนนี้ติดตั้งแพ็คเกจที่จำเป็นบนระบบของคุณเพื่อติดตั้ง Docker บนระบบ Debian ใช้คำสั่งด้านล่างนี้นี้ครับ: apt-get install apt-transport-https ca-certificates curl gnupg2 software-properties-common Step 2 ติดตั้ง Docker Repository สร้างคีย์ เพื่อเอาไว้ตรวจสอบลายเซ็นของ packages ก่อนติดตั้งครับด้วยคำสั่งต่อไปนี้ apt-get install apt-transport-https ca-certificates curl gnupg2 software-properties-common หลังจากนั้นให้เพิ่มที่เก็บ Docker บนระบบ Debian ของคุณซึ่งมีแพ็คเกจ Docker รวมถึงการอ้างอิง คุณต้องเปิดใช้งานที่เก็บนี้เพื่อติดตั้ง Docker บน Debian ด้วยคำสั่งดังนี้ add-apt-repository "deb [arch=amd64] https://download.docker.com/linux/debian stretch stable" Step   3 — ติดตั้ง Docker on Debian 9 ระบบของคุณพร้อมสำหรับการติดตั้ง Docker แล้ว รันคำสั่งต่อไปนี้ เลย apt-get update  apt-get install docker-ce  หลังจากติดตั้ง Docker คำสั่งด้านล่างเพื่อ

วิธีการ ใช้ Debian (Linux) ในฐานะ Root User

  "root" account หรือ root user ในคอมพิวเตอร์  Debian ( Linux)  เป็นบัญชีผู้ใช้ที่มีสิทธิ์เต็มที่ในการใช้งานและปรับแต่งส่วนต่างๆ การใช้คอมแบบ root access นั้นจำเป็นถ้าจะใช้คำสั่งบางอย่างใน  Debian ( Linux) โดยเฉพาะ      root access ควรใช้เฉพาะตอนที่จำเป็นจริงๆ อย่าล็อกอินไว้ด้วย root user ตลอด จะได้ไม่เผลอทำไฟล์ระบบที่สำคัญเสียหายได้  1. พิมพ์  . su -   ใน  terminal     แล้วกด   ↵  Enter . เพื่อล็อกอินในฐานะ "super user"  2. ใส่รหัสผ่าน root ตอนที่ถูกถาม.  พอพิมพ์  su -  และกด  ↵  Enter  แล้ว คุณจะถูกถามรหัสผ่าน root  *** วันนี้เอาเท่านี้ก่อนนะครับเดี่ยวเเวะมาเขียนต่อ

Linux command line คำสั่งต่างๆ ที่ต้องทราบเมื่อคุฯต้องใช้งาน linux

Check os version in Linux remote server login using the ssh:  ssh user@server-name พิมพ์หนึ่งในคำสั่งต่อไปนี้เพื่อค้นหาชื่อและเวอร์ชันของระบบปฏิบัติการใน Linux - cat /etc/os-release - lsb_release -a - hostnamectl คำสั่งต่อไปนี้เพื่อค้นหารุ่นเคอร์เนล Linux :   uname -r

Restart all running docker containers

เริ่มต้น กับหาการเช็ค containers กันก่อนครับ  -> docker ps ต่อไปเป็นการรีเซท ทีละ container -> docker restart <container id> สุดท้าย เป็นการรีเซท ทั้งหมดในเซริฟเวอร์เราครับ  -> docker restart $(docker ps -q)

วิธีต่อสตริง Golang

string concatenation เป็นพื้นฐานที่สุดในการเขียนโปรแกรมหลาย ๆ ภาษาจะใช้เครื่องหมาย  +  ในภาษา Go ก็เช่นกัน มาดูกันครับ มีแบบต่างๆให้เราเลือกใช้แบบไหนบ้าง 1.ใช้งาน buffer Package byte package main import ( "bytes" "fmt" ) func main() { var str bytes.Buffer // เริ่มต้นด้วย "Hello " str.WriteString("Hello ") // ต่อคำว่า world! ลงในตัวแปร str.WriteString("world!") fmt.Println(str.String()) } ใช้งานฟังก์ชัน bytes.WriteString ในการต่อสตริง และแปลงให้อยู่ในรูปแบบตัวแปรสตริงด้วยฟังก์ชัน bytes.String    2. ใช้งานฟังก์ชัน copy package main import "fmt" func main() { str:= make([]byte, 13) i := 0 // เริ่มต้นด้วย "Hello " i += copy(str[i:], "Hello, ") // ต่อคำว่า world! ต่อลงไปใน byte i += copy(str[i:], "world!") fmt.Println(string(str)) } ตัวแปร slice ของ byte สามารถ convert type เป็นสตริงได้เลย 3. ใช้งานฟังก์ชัน join package main import ( "fmt" "strings" ) func main() { str := make